1. ผู้มีสิทธิยื่นคำขอจดทะเบียนอาคารชุด ตามกฎหมายอาคารชุด ได้แก่
1.1 เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงที่อาคารชุดนั้นตั้งอยู่
1.2 และเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในอาคารชุดนั้น ๆ ด้วย
ผู้ที่มีกรรมสิทธิ์เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 ประการดังกล่าวข้างต้นไม่สามารถยื่นคำขอจดทะเบียนอาคารชุดได้ อาคารที่จะขอจดทะเบียนอาคารชุดจะเป็นอาคารกี่หลังก็ได้ และจะอยู่ในโฉนดที่ดินกี่แปลงก็ได้
2. เอกสารที่ต้องยื่นเพื่อขอจดทะเบียนอาคารชุด มีดังนี้
2.1 โฉนดที่ดิน สำหรับที่ดินซึ่งยังไม่มีโฉนดหรือเพียงแต่มีเอกสารแสดงสิทธิครอบครอง เช่น น.ส. 3 หรือ ส.ค. 1 จะยื่นขอจดทะเบียนอาคารชุดไม่ได้
2.2 แผนผังอาคารชุด รวมทั้งเส้นทางเข้าออกสู่ทางสาธารณะ
2.3 รายละเอียดเกี่ยวกับห้องชุด ทรัพย์ส่วนบุคคล และทรัพย์ส่วนกลาง ได้แก่ จำนวนพื้นที่ ลักษณะการใช้ประโยน์และอื่น ๆ ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
2.4 อัตราส่วนที่เจ้าของห้องชุดแต่ละห้องชุดมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ส่วนกาง
2.5 คำรับรองของผู้ยื่นคำขอว่า อาคารที่ขอจดทะเบียนอาคารชุดนั้นปราศจากภาระผูกพันใด ๆ เว้นแต่ การจำนองอาคารรวมกับที่ดิน
2.6 ร่างข้อบังคับนิติบุคคลอาคารชุด
2.7 หลักฐานอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง อาทิ ใบรับรองการก่อสร้างอาคารหรือดัดแปลงอาคาร หรือใบอนุญาตเปลี่ยนการใช้อาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ในกรณีที่าคารที่ขอจดทะเบียนอาคารชุดนั้นตั้งอยู่ในท้องที่กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารใช้บังคับ, หนังสืออนุญาตให้ก่อสร้างอาคารตามฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศหรือตามกฎหมายว่าด้วยเขตปลอดภัยในราชการทหาร ในกรณีที่อาคารที่ ขอจดทะเบียนอาคารชุดนั้นตั้งอยู่ภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศหรือในบริเวณเขตปลอดภัยในราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยเขตปลอดภัยในราชการทหาร แล้วแต่กรณี (กฎกระทรวงฉบับที่ 5 ออกตามความในพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2541)
3.ในการขายห้องชุด ผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคาร (เจ้าของโครงการ) จะต้องดำเนินการ ดังนี้
3.1 การโฆษณาขายห้องชุดในอาคารชุด ต้องเก็บสำเนาข้อความ หรือภาพที่โฆษณา หรือหนังสือชักชวนที่นำออกโฆษณาแก่บุคคลทั่วไป ไม่ว่าจะทำไว้ในรูปแบบใดไว้ในสถานที่ทำการจนกว่าจะมีการขายห้องชุดหมด และต้องส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้นิติบุคคลอาคารชุดจัดเก็บไว้อย่างน้อยหนึ่งชุด
3.2 การโฆษณาขายห้องชุดในอาคารชุดในส่วนที่เกี่ยวกับหลัก,านและรายละเอียดที่กำหนดไว้ในข้อ 2. ข้อความหรือภาพที่โฆษณาจะต้องตรงกับหลักฐานและรายละเอียดที่ยื่นพร้อมคำขอจดทะเบียน และต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนกลางให้ชัดเจน
3.3 ให้ถือว่า ข้อความหรือภาพโฆษณา หรือหนังสือชักชวนเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจะซื้อจะขาย หรือสัญญาซื้อขายห้องชุด แล้วแต่กรณี หากข้อความหรือภาพใดมีความหมายขัดหรือแย้งกับข้อความในสัญญาจะซื้อจะขาย หรือสัญญาซื้อขายห้องชุด ให้ตีความไปในทางที่เป็นคุณแก่ผู้จะซื้อหรือผู้ซื้อห้องชุด
3.4 สัญญาซื้อขายห้องชุดระหว่างเจ้าของโครงการกับผู้ซื้อห้องชุดจะต้องทำตามแบบสัญญาที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด หากมิได้ทำตามแบบและไม่เป็นคุณต่อผู้ซื้อห้องชุด สัญญาส่วนนั้นไม่มีผลใช้บังคับ

|